10 ข้อสงสัยที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยากรู้?
10 ข้อสงสัยที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยากรู้?
เมื่อผู้หญิงเรากำลังจะมีเบบี๋ในท้อง มักกังวลกับอะไรไปต่างๆ นานา ว่าสิ่งนี้ทำได้ไหม สิ่งนั้นทำแล้วจะส่งผลกับลูกในท้องหรือเปล่า? วันนี้ Beautyhunger จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ 10 ข้อสงสัยที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยากรู้?
1. ออกกำลังกายได้ไหม?
ก่อนท้องเคยออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตอนท้องก็ใช่ว่าต้องหยุดออกกำลังกายนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์เพียงแค่เปลี่ยนจากการออกแรงมาก ท่ายาก ผาดโผน มาเป็นการกำลังกายเบาๆ อย่างเช่น โยคะ คาดิโอ ว่ายน้ำ โดยการเล่นโยคะ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น ระบบกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อที่รับน้ำหนักที่มากขึ้นได้ผ่อนคลาย ที่สำคัญกระดูกเชิงกรานขยายมากขึ้น ซึ่งมีผลดีต่อการคลอดลูก แต่ระหว่างออกกำลังกายควรนั่งพักนั่งหายใจเพื่อรับออกซิเจนสัก 10-15 นาทีเผื่อลูกน้อยในท้อง และดื่มน้ำเพื่อชดเชยเหงื่อที่เสียไป
2. ทานอะไรก็ได้หริอ?
ภาวะท้องจะหิวตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนขึ้นไป ยิ่งต้องการสารอาหารเพื่อบำรุงลูกน้อยในครรภ์ สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถทานได้นั้นมีมากมายและหลากหลาย นอกจากอาหารหลัก 5 หมู่ คุณแม่สามารถทานอาหารได้มากกว่า ซึ่งปกติคนธรรมดา 3 มื้อต่อวัน คนท้องจะอยู่ที่ 4-5 มื้อต่อวัน อย่าลืมเน้นทานผักผลไม้ สิ่งที่ต้องงดทานในช่วงนี้คือ ของหมักดอง ของดิบ อาหารรสจัดเกินไป ของแปลกที่เคยทาน นอกจากนั้นทานได้หมดค่ะ
3. ไม่ควรไปที่ไหน?
ขึ้นอยู่สภาพร่างกายและสภาพจิตใจของคุณแม่ตั้งครรภ์มากกว่า ถ้ามีความกังวล หวาดระแวง กลัวไปซะทุกอย่าง ก็ควรอยู่แต่ในบ้าน หรือสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัย ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์ที่คิดบวก แฮปปี้กับทุกอย่าง ก็สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ แม้แต่งานศพที่คนสมัยก่อนมักห้าม เพียงแต่ให้ระวัดระวังเรื่องการเดินเหิน แดดที่ร้อนจัด อาจทำให้เป็นลม หน้ามืดได้
4. มีเพศสัมพันธ์ได้?
คุณแม่ตั้งครรภ์ในปัจจุบันเริ่มเข้าใจความต้องการของสามี ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ แต่คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนไม่ยอมให้สามีแตะต้องตัวเลย เพราะคิดว่าการร่วมเพศอาจกระทบไปยังลูกในท้อง ทำให้แท้ง พิการ คลอดก่อนกำหนด แต่จริงๆ แล้วเด็กอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ไม่เกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ นอกเสียแต่ว่มีเลือดภาวะออก ท้องแข็ง ลูกดิ้นแรง ระหว่างร่วมเพศ โดยส่วนช่วงที่ปลอดภัยคือตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จนถึงใกล้คลอด ทั้งนี้ อาจปรึกษาสูตินารีแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติม
5. ลูกดิ้นน้อยลง?
เคยได้ยินว่า ลูกดิ้นมากแสดงถึงพัฒนาการที่ดีเยี่ยม ซึ่งอัตราการดิ้นอาจสูงถึง 375-700 ครั้งต่อวัน แต่เมื่อเกิดภาวะลูกในท้องไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์เกิดความกังวลใจ อย่าเพิ่งคิดมากนะคะ เพราะปกติแล้วเมื่อท้องแก่มาก ลูกน้อยจะมีลำตัวที่ใหญ่ขึ้น ทำให้โพรงมดลูกแคบลงนั่นเอง อย่างไรก็ตามให้รีบปรึกษาสูตินารีแพพย์ เมื่อพบว่าลูกไม่ดิ้น หรือ ดิ้นแรงผิดปกติ เพราะอาจเกิดภาวะรกพันคอได้ค่ะ
6. ซื้อของเตรียมไว้เลยไหม?
ขึ้นอยู่กับความชัดเจนและความพร้อมของคุณแม่ตั้งครรภ์ ความชัดเจนในที่นี้หมายถึงเพศของลูก ซึ่งโดยส่วนใหญ่เมื่อทราบเพศแล้วก็สามารถซื้อของเตรียมไว้ได้เลย ผู้หญิงสีชมพู ผู้ชายสีฟ้า หรือแล้วแต่ความชอบของพ่อแม่ ส่วนความพร้อมหมายถึง เงินในกระเป๋า ส่วนใหญ่จะทยอยซื้อทีละอย่าง ไล่เรียงจากที่ของใช้ที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า ผ้าอ้อม เครื่องปั๊มนม ขวดนม เปลนอน เป็นต้น
7. ดื่มนมมากกว่า 1 แก้วต่อวัน?
เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทานเน้นอาหารให้ครบ 5 หมู่ เนื้อ นม ไข่ ก็เพียงพอสำหรับลูกน้อยในท้อง ส่วนนมวัว หรือนมธัญพืช ควรทานวันละ 1 แก้ว เพราะถ้าดื่มมากเกินไป โอกาสที่ลูกในท้องจะแพ้โปรตีนจะมีสูงค่ะ
8. บำรุงด้วยแคลเซียมเยอะๆ ?
อะไรที่มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดีทั้งนั้น เมื่อคนท้องได้รับแคลเซียมน้อยไป ส่งผลให้ลูกดูดแคลเซียลจากคุณแม่จนหมด ทำให้กระดูกเปราะบาง ผุง่ายกว่าปกติ ฟันผุง่ายขึ้น ชักเกร็ง แต่ถ้าบำรุงมากเกินไป อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาหารเบื่ออาหาร คลื่นใส้ อาเจียร ความจำเสื่อม และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
9. น้ำมะพร้าวดื่มตอนไหน?
ประโยชน์ของน้ำมะพร้าวคือวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อดื่มน้ำมะพร้าวจะทำให้ไขที่ลูกน้อยให้มีสีค่อนข้างขาว คลอดง่าย ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมคือ วันละ 1 แก้ว ในตอนเช้า เพราะร่างกายดูดซึมได้ดีที่สุด แต่คุณแม่ที่มีอายุครรภ์น้อยๆ หรือมีภาวะเลือดออก ควรงดก่อนเนื่องมีผลต่อการบีบตัวมดลูก
10. การติดเข็มกลัดไว้บริเวณสะดือ
ปิดท้ายด้วยความเชื่อที่ว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ควรติดเข็มกลัดไว้ที่สะดือเพื่อป้องกันอันตราย ภูติผีร้าย ความจริงเป็นกุสโลบายของคนสมัยก่อนให้คนรอบข้างระมัดระวังคนท้องมากขึ้น รวมถึงให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกปลอดภัยสบายใจ
ว่ากันว่าช่วงเวลาที่มีความสุขของผู้หญิง คือ การมีโอกาสได้อุ้มท้อง ดูแลตัวน้อยๆ ที่อยูู่ในท้อง เกิดสายสัมพันธ์แห่งความรักที่บริสุทธิ์ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทำจิตใจให้ผ่องใส คิดบวกเข้าไว้ รับรองว่าลูกๆ สัมผัสถึงความรักและความสุขของคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ
26 กรกฎาคม 2562
ผู้ชม 1081 ครั้ง